ท่านทั้งหลายเอ๋ย ปฏิเสธไม่ได้แล้วล่ะครับกับเทรนที่มันมาแรงจริงๆ ในยุคปัจจุบันนี้ ยุคแห่งดิจิตอล ยุคที่ทุกอย่างสมาร์ท การทำสื่อ การส่งต่อข่าวสารมันไม่ใช่การกระทำแบบเดิมๆ อีกต่อไป ก่อนหน้านี้ในอดีตเราจะทราบข่าวสารได้ก็ต้องรออ่านจากหนังสือพิมพ์ ถัดมาก็ต้องรอฟังจากรายการวิทยุ ถัดมาก็ต้องรอดูข่าวจากทางโทรทัศน์ จนมาถึงยุคของคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตที่ใครๆ ก็ต่างการันตีว่านี่แหละ คือช่องทางการรับรู้ข่าวสารได้ไวที่สุดละ แต่ปัจจุบันนี้มันไม่ใช่แล้วล่ะครับ..!! ปัจจุบันนี้มีสมาร์ทโฟน (โทรศัพท์มือถือ), แท๊บเล็ต ที่สามารถเข้าถึงสื่อ หรือข่าวสารทุกชนิดบนโลกนี้ ซึ่งแต่ละคนก็ติดกันงอมแงมจนชนิดมีคำกล่าวสะท้อนสังคมออกมาว่า "สังคมก้มหน้า" จนมีการออกมารณรงค์กันเป็นแถว แต่นั่นแหละครับคือสิ่งที่เราต้องยอมรับ และปรับตัวเข้ากับมันให้ได้
ดังนั้นสื่อทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นสำนักไหนก็ตามก็จะต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยให้ได้ ใครที่ปรับตัวได้ทันก็อยู่รอดไป ใครปรับตัวไม่ทันก็พ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย (ใครอ่อนแอก็แพ้ไป...) หลังจากปรับตัวกันมาเยอะแยะแล้วก็มาถึงเรื่องของคู่แข่งทางการตลาดอีก มีการแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง ชิงอันดับความนิยมของสื่อแต่ละสำนัก ทุกๆ สื่อต่างยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองได้ติดอยู่ในอันดับ 1-3 หรือ 1-5 ของประเทศ แต่จะทำอย่างไรล่ะ จะมีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้สื่อของเราเป็นที่นิยมต่อใครหลายๆ คนในยุคที่มีการแข่งขันทางด้านสื่อสูงขนาดนี้ ลองมาดูกันครับ...
1) Mobile Mobile และ Mobile
ยุคนี้ต้องคิดก่อนเลยว่าผู้บริโภคไปอยู่บนมือถือ และใช้ชีวิตกับมือถือมากกว่าสื่ออื่น ๆ อย่างมากมาย หากแบรนด์คุณยังไม่ได้ทำอะไรกับมือถือเลยนั้นเป็นหายนะของแบรนด์และการตลาดคุณแล้ว เพราะฉะนั้นปีนี้นักการตลาดควรหันมาดูเครื่องมือการตลาดของคุณทั้งหมดว่าอัพเดทให้สนับสนุนมือถือ หรือทำงานให้ได้ดีบนมือถือรึยัง ไม่ว่าจะเป็น Website ที่ต้องทำให้รองรับ Mobile ซึ่งเดียวนี้จะทำเป็น Responsive Design หมดแล้ว และออกแบบให้เป็น Mobile First ออกมา หรือถ้าต้องมี Application คอยบริการคุณทำ App รึยัง นอกจากนี้การคิดถึงการทำ Digital Marketing อื่น ๆ ก็ต้องคิดถึง Mobile ไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็น Email Marketing ที่ต้องคิดถึงการอ่านบน Mobile จนถึงการทำ Content ต่าง ๆ ที่ต้องทำให้การอ่านบน Mobile นั้นง่ายขึ้นมาด้วย นอกจากนี้ต้องลองคิดว่าจะเอา mobile มาเพิ่มประสบการณ์ของผู้บริโภคได้อย่างไร เช่นการใช้ Location Based ในการดึงคนเข้าร้าน หรือนำเสนอโปรโมชั่นต่าง ๆ สิทธิพิเศษผ่าน Mobile ได้เลย
2) สร้าง Content ที่ดีขึ้น
ในตอนนี้ทุกคนต่างทุ่มเงินลงไปในการทำ Content Marketing อย่างมาก และนั้นคือปัญหาเพราะทุกคนจะพยายามทำอะไรที่เหมือน ๆ กันที่เวิร์คออกมา และถ้าคุณทำได้แค่โพสบน Facebook หรือทำเนื้อหาบนเว็บต่อไปแบรนด์คุณจะไม่สามารถแข่งขันได้อีกต่อไปเลย ตอนนี้แบรนด์คุณต้องหาทางที่จะทำ Content ที่ดีขึ้นออกมาให้ได้ ลองมองว่าจะสามารถสร้าง Creative Content แบบไหนออกมา หรือบริบทของ Content แบบไหนที่ควรใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในบางครั้งคุณไม่จำเป็นต้องพูดเอง ลองหา Influenced ที่เข้ากับแบรนด์มาทำ Content ร่วมกันก็ได้
3) ทำให้เกี่ยวข้องและเป็นของส่วนตัว
ยุคนี้ที่ผู้บริโภคนั้นมีความสนใจเฉพาะตัวและต้องการอะไรที่ไม่เหมือนใคร การสร้างเนื้อหาที่สามารถเจาะเข้าไปความสนใจที่เป็นความสนใจของผู้บริโภคนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เมื่อเจาะไปได้แล้ว การดึงผู้บริโภคและทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์นี้เข้าใจผู้บริโภคนั้นเป็นเรื่องสำคัญต่อมา เช่นการเข้ามาเป็นสมาชิกแล้วสามารถเลือกความชอบที่จะเห็นหรือแบรนด์สามารถส่งเนื้อหาที่เป็นความชอบได้สม่ำเสมอเมื่อผู้บริโภคเข้ามาเป็นสมาชิกแล้ว ทำให้ประสบการณ์ที่ผู้บริโภคแต่ละคนที่เจอจะเป็น Persernalise ขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น Netflix หรือ Spotify ที่สามารถสร้างหน้าของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันและ Content ที่นำเสนอก็ขึ้นอยู่กับความชอบของคน ๆ นั้น
4) สร้างความจริงใจ
ยุคนี้ความจริงใจนั้นกลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก คนอยากอยู่กับแบรนด์ที่มีความจริงใจไม่หลอกลวง หรือโปร่งใสในการทำงานต่าง ๆ ขึ้นมา ยิ่งแบรดน์สามารถส่งสารที่มีความจริงใจในการสื่อสารได้มากแค่ไหน คนยิ่งติดในแบรนด์นั้นมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ความจริงใจยังรวมถึงการใช้ภาพที่ถ่ายมาจากแบรนด์ตัวเองไม่ใช่ Stock Photo หรือการมี Brand Identity ที่บ่งบอกถึงตัวเองที่แน่ชัด ลองดูวิธีการที่ KFC ในประเทศไทยสื่อสารที่จริงใจกับคนทั่วไป
5) ทำให้ดี ไม่ต้องทำเยอะ
ยุคนี้การทำเยอะไม่ได้หมายความว่าดี ทำเยะแล้วไม่ใช่ว่าจะเห็นหรือสนใจ กลับกันอาจจะสร้างความน่ารำคาญขึ้นมาอีก การทำให้ดีในยุคนี้คือการทำให้เนื้อหาหรือการลงมือแต่ละครั้งนั้นมีความ Craft มีความหมาย ตรงใจผู้บริโภคและติดตามการทำงานแต่ละครั้งผ่านเครื่องมือวัดผล เพื่อปรับปรุงการทำงานได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นไปอีก
ขอบคุณข้อมูลสนับสนุนจาก: #พี่คม ICTM15
ขอบคุณรูปภาพจาก: Cloudrock.asia